Connecting Point

Connecting Point (1)

บ้านหลังนี้อายุราว 40 ปี ตอนมาเห็นครั้งแรกนึกถึงบ้านตัวเองสมัยเด็กๆ แม้จะไม่เหมือนกันเป๊ะแต่บรรยากาศเดียวกัน… จะว่าไปลักษณะบ้านสมัยก่อนมีแบบคล้ายๆกันนี้จำนวนมาก แต่รูปทรงเรียบง่ายมีเสน่ห์นี้ก็ลดหายไปตามกลาลเวลา

บ้านเป็นกึ่งไม้และปูนผสมกัน มีห้องต่างๆ ขนาดต่างๆกันไป ภายใต้ฝ้าเพดานที่ไม่สูงนัก แสงสว่างจากภายนอกลอดเข้ามาตามช่องแสงและหน้าต่างเพียงตามระดับตัวบ้าน และดูสว่างที่สุดตรงโถงบันไดที่มีชานพัก เป็นกรอบกระจก 9 บานต่างขนาด มองออกไปเห็นต้นกระพี้จั่นที่จะออกดอกสีม่วงในฤดูหนาวซึ่งเป็นต้นที่ปลูกใกล้บ้าน และมองเห็นต้นประดู่แดงสูงใหญ่ดูสง่าอายุเกิน 50 ปี

ถัดออกไป ด้วยความเป็นคนรักต้นไม้  ในระดับใครตัดต้นไม้ที่บ้าน มีนั่งน้ำตาตกเผาะๆยิ่งกว่าดูซีรีย์เกาหลี

การตัดสินใจจะเปิดร้าน Spoonful Zakka Cafe อีกครั้ง คงจะตัดสินใจไปตอนที่แหงนมองทางไหนก็เห็นสีเขียวของต้นไม้ ใบไม้… รู้สึกว่าหากไม่ทำที่นี่ ก็อาจไม่ทำร้านอีกหรือเปล่านะ ไม่งั้นเราคงต้องไปอยู่ในป่าแล้วล่ะ 55

แม้เราจะชอบบ้านแบบดั้งเดิมนี้มากอยู่แล้ว แต่เมื่อนึกถึงการใช้งานเพื่อเป็นคาเฟ่ ก็รู้ว่าต้องปรับปรุงครั้งใหญ่ เราเข้ามานั่งๆมองๆขีดๆเขียนๆีคุยกันอยู่หลายรอบ และยังกลับไปวาดอะไรๆตามจินตนาการอีกไม่น้อย

ไม่แปลกเลยที่คนมักพูดว่า ให้เชื่อตามสัญชาติญาณแรก (และก็จริง)

หลังจากวาดแบบไป4-5อัน ก็มาจบที่แบบอันแรกเพราะอาจจะดูลงตัวสุดในความรู้สึกเรา

และดูจะเป็นไปได้ที่จะทำให้เสร็จภายในเวลาอันจำกัด

 

ส่วนตัวบ้านปรับให้มีพื้นที่ใช้สอยที่มากขึ้น หลังคาเปลี่ยนออกและยกระดับให้สูงขึ้นเล็กน้อย

รวมทั้งใส่กระจกนิรภัยเพื่อเป็นช่องแสงธรรมชาติให้แสงสว่างเข้าถึงส่วนกลางของบ้านได้มากขึ้น

ส่วนนอกนั้น ก็เรียบๆตามแบบฉบับของเรา เน้นความเป็นธรรมชาติของวัสดุที่เลือก

เฟอร์นิเจอร์ใช้ของเก่าที่มีอยู่ ไม่พอก็เติมของใหม่ให้เรียบร้อย

แล้วค่อยมาดูส่วนขยายกันต่อในครั้งหน้า

 

ww-team